วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย




แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย


        แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย (Jack Russell Terrier) สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นมาเมื่อราวปี ค.ศ. 1814 โดยศาสนจารย์ แจ๊ค รัสเซลล์ ผู้ชื่นชอบการไล่ล่าสุนัขจิ้งจอก เขาต้องการสุนัขสายพันธุ์เทอร์เรียร์ขนาดเล็ก ที่จะใช้ไล่ล่าสุนัขจิ้งจอก จนกระทั่งได้สุนัขเทอร์เรียเพศเมียมาตัวหนึ่งชื่อ "ทรัมพ์" จากคนส่งนม ศาสนจารย์ แจ๊ค รัสเซลล์ จึงใช้ทรัพพ์เป็นพื้นฐานจนเพาะพันธุ์ได้เป็น แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย ขึ้นมาในที่สุด
ทั้งนี้ ในยุคแรกๆ สุนัข แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย มีความสูงเฉลี่ย 35 เซนติเมตร แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้มีการพัฒนาสายพันธุ์จนได้ สุนัข แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย ที่มีขนาดเล็กลง และมี 2 สายพันธุ์ คือ พาร์สัน แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย และ แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย
 ลักษณะทั่วไป สุนัข แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย
    สุนัข แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย มีลักษณะขน 3 ประเภทคือ ขนเรียบ ขนแตก และขนหยาบ ลักษณะที่ดีของ สุนัข แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย คือควรจะมีกะโหลกโต หูต้องเป็นรูปตัว V และตกไปทางด้านหน้า จมูกและริมฝีปากต้องมีสีดำ ตาควรเป็นสีน้ำตาลเข้มรูปถั่วอัลมอนด์ แฝงด้วยแววตาขี้เล่นและขี้สงสัย ขาต้องตรงและมีกล้ามเนื้อที่ต้นขา หางต้องสั้นและชี้ขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขนของสุนัข แจ็ครัสเซล ควรจะมีสีขาวตั้งแต่ 51% หรือมากกว่าขึ้นไปในร่างกาย และมีมาร์คกิ้งเป็นสีน้ำตาลหรือดำ หรือทั้งน้ำตาลและดำ หรือเรียกว่า "TRI COLOURED MARKING" ซึ่ง สุนัข แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย ส่วนใหญ่จะพบที่บนใบหน้า รอบตา หู ที่ก้นถึงหางและเล็กน้อยบนลำตัว
ลักษณะนิสัย แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย
      สนัข พันธุ์นี้สามารถมีชีวิตได้นานถึง 14 ปี แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรียร์ เป็นนักล่าตัวเล็กๆ ที่ยอดเยี่ยม พวกเขาเป็นสุนัขที่ฉลาด ซึ่งเห็นได้ชัดจากการที่เขาเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสนามแข่งขัน โดยในอดีต แจ๊ค รัสเซล จะไล่ล่าไปตั้งแต่สุนัขจิ้งจอกจนถึงหนูตัวเล็กๆ พวกเขาจะใช้เวลาในการสำรวจพื้นที่ก่อนจะทำการไล่ล่า เพื่อความแม่นยำ
นอกจากนี้ สุนัข แจ๊ครัสเซล ยังเข้ากันได้ดีกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ เหมาะเป็นทั้งสุนัขที่เลี้ยงในบ้าน และก็สามารถพาออกไปนอกบ้านได้อย่างไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ด้วยธรรมชาติความอยากรู้อยากเห็นจนถึงขั้นซนของ แจ็ค รัสเซลล์ ทำให้ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องให้เขาอยู่ในสถานที่ที่ซึ่งมีรั้วรอบขอบชิดเป็นอย่างดี
เรื่องควรรู้ก่อนคิดเลี้ยง สุนัข แจ๊ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย
  1. แจ๊ครัสเซล เป็นสุนัขตื่นตัวตลอดเวลา มันควรได้รับการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรอยู่ในความควบคุมดูแลและควรได้รับการฝึกสอนจากเจ้าของ หรือฝึก
  2. แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่ต้องการการเอาใจใส่ดูแลและเวลาจากเจ้าของอย่างมาก เนื่องจากเป็นสุนัขที่ชอบเข้าสังคมและขี้เล่น
  3. ผู้เลี้ยง สุนัข พันธุ์แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย ควรจัดระบบการเลี้ยงให้ถูกต้อง เช่นต้องมีรั้วรอบขอบชิด เพราะ สามารถกระโดดได้สูงมาก รวมถึงปีนป่าย แม้กระทั่งขุดรูเพื่อหนีเที่ยวถ้ามันรู้สึกเบื่อหรืออยากหาอะไรสนุกตื่นเต้น ทำ
   4. เพื่อความปลอดภัยของ สุนัข ผู้เลี้ยง แจ๊ครัสเซลล์ ควรจะใช้สายจูงตลอดเวลาที่พาไปเดินเล่น เนื่องจาก แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่มีความรวดเร็วและคล่องตัวสูงมาก



วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เชดแลนด์ชิพด๊อก (Shetland Sheepdog)


เชดแลนด์ชิพด๊อก (Shetland Sheepdog)

แข็งแรง สง่างาม


                                                                            

คุณสมบัติของสุนัข

  • ขนาดตัว    กลาง
  • ดูแลรักษาความสะอาด    1 ครั้ง/2 สัปดาห์
  • ความยาวขน    ยาว                                          
  • ออกกำลังกาย    2-3 ครั้ง/สัปดาห์
  • พละกำลัง/ความแข็งแรง    ปานกลาง
  • เป็นมิตรกับเด็ก    มาก
  • ทนต่ออากาศร้อน    ปานกลาง
  • ทนต่ออากาศหนาว   มาก
  • พื้นที่ในการเลี้ยง   มาก



     ลักษณะทั่วไป
         เป็นสุนัขที่มีความกระตือรือล้นสูง มีความแข็งแรงมาก เพราะมีคุณลักษณะในแบบสุนัขดูแลแกะ เป็นสุนัขที่มีความเฉลียวฉลาด เชดแลนด์ชิพด๊อกอาจจะเรียกได้ว่าเป็นคอลลี่รุ่นเล็ก คนยาวปานกลาง แลดูสวยงาม ขนหนา รูปร่างดูปราดเปรียวว่องไว เหมาะกับเป็นน้องหมาต้อนแกะ
     ความเป็นมา
          
    เป็นการผสมกันระหว่างสุนัขพันธุ์คอลลี่ (Collie) กับสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บนเกาะเซทแลนด์ที่เป็นกลุ่มสายพันธุ์สปิตซ์ (Spitz Type) และมีส่วนผสมของสายพันธุ์ ไอซ์แลนด์ดิก ชีพด็อก สำหรับ สุนัข เชทแลนด์ ชีพด็อก ตัวแรกที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมสุนัข ประเทศอังกฤษ ในปี 1909 เป็นสุนัขเพศเมีย ชื่อ Badenock Rose และ เชทแลนด์ ชีพด็อก ตัวแรกที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมสุนัข ประเทศอเมริกา ในปี 1911 คือ Lord Scott ลักษณะนิสัย
          
    มีความเฉลียวฉลาด รักเด็ก มีความรับผิดชอบ มีสัญชาตญาณที่ดี ซื่อสัตย์ ชอบความสงบ สามารถฝึกได้โดยง่าย ไม่ใส่ใจกับคนแปลกหน้าโดยจะแสดงอาการไม่ใส่ใจ ร่าเริง วิ่งเร็วและกระโดดเก่ง
     การดูแล
         พาไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ต้องอาบน้ำบ่อย แต่ถ้าอยู่ในเมืองไทย ออกกลางแจ้งบ่อยๆ ก็ควรอาบ 1ครั้งต่อ 1-2 สัปดาห์ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับการดูแลสุขภาพขนคือการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันขนพันกัน ติดเป็นสางกะตัง

    ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
          
    ผู้ที่ต้องการเลี้ยง เชดแลนด์ชิพด๊อกควรมีบ้านที่มีอาณาบริเวณ มีรั้วรอบขอบชิดให้พวกเขาได้วิ่งเล่น เพราะพวกเขาเคยเป็นน้องหมาต้อนเก็บมาก่อน ธรรมชาติจะชอบอยู่อย่างอิสระ มีพื้นที่ให้ได้วิ่งไปมา นอกจากนี้ผู้ต้องการเลี้ยงพวกเขาควรเวลาดูแลเรื่องขนให้แก่เขาเป็นประจำทุกวัน พาไปตัดแต่งทรงขน ทำความสะอาดหู เล็บเท้า เพื่อให้พวกเขาเป็นสุนัขที่สวยงาม สุขภาพดี
    ข้อควรจำ
         เชดแลนด์ชิพด๊อกต้องระวังเรื่องโรคสะบ้าเคลื่อน โรคสะโพกเคลื่อน หูอักเสบ โรคต่างๆ เกี่ยวกับดวงตา และอาจจะต้องระวังสำหรับบางตัวที่อาจมีอาการเลือดหยุดออกยาก จึงควรระวังเรื่องการเคลื่อนที่ของพวกเขา ทำความสะอาดหูอย่างสม่ำเสมอ ควรพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ หากมีอะไรผิดปกติควรไปพบแพทย์

     
    มาตรฐานสายพันธุ์

ขนาด
ส่วนสูง  13-16 นิ้ว น้ำหนัก 6-11.5 ปอนด์ 
ศรีษะ
มองจากด้านบนหรือด้านล่างมีลักษณะแบบลิ่ม
ฟัน
ฟันขาวสะอาด ขากรรไกรแข็งแรง มีลักษณะฟันแบบขบกรรไกร
ปาก
กระบอกปากยาวแหลม ริมฝีปากดำ กระชับชุ่มชื้น
ตา
ขนาดปานกลาง คล้ายเม็ดอัลมอนด์ มีสีดำ สีฟ้า
หู
เล็ก ตั้งสูง หักปลายและนิ่ม
จมูก
ต้องมีสีดำ
คอ
คอตั้งตรง และได้สัดส่วนกับบ่าถึงช่วงลำตัว อกลึก และได้สัมพันธุ์ กับข้อศอก เพื่อความสวยงามในการเดิน
อก
อกลึก ซี่โครงขยายกำลังดี
ลำตัว
ลำตัวได้ระดับ ท้องจะโค้งขึ้นเล็กน้อย ลำตัวค่อนข้างยาวกว่าช่วงขา หลังแข็งแรง
เอว
-
ขาหน้า
กระดูกค่อนข้างใหญ่ ขาหน้าตรง ข้อเท้าสั้น มองทางด้านหน้าขาจะขนานกันและห่างกันพอสมควร
ขาหลัง
ขาหลังแข็งแรง ช่วงต้นขายาวกว่าช่วงท่อนขาล่าง ซึ่งตรง แข็งแรง มองจากด้านหลังขนานกันทั้ง 2 ข้าง
หาง
ควรจะยาวมากพอ เวลาสุนัขตื่นตัวหางจะชูขึ้น
ขน
ยาวปานกลาง ขน 2 ชั้นหนาฟู ทั่วทั้งตัว ยกเว้นบริเวณใบหน้า  
สีขน
สีมีหลากสีแต่มีสีหลัก คือ sable&white,black

ชาเป่ย (Sharpei)


ชาเป่ย (Sharpei)

สุขุม ซื้อสัตย์ และน่ารัก



คุณสมบัติของสุนัข

  • ขนาดตัว   กลาง
  • ดูแลรักษาความสะอาด   1 ครั้ง/เดือน
  • ความยาวขน   สั้น
  • ออกกำลังกาย   1 ครั้ง/สัปดาห์
  • พละกำลัง/ความแข็งแรง   ปานกลาง
  • เป็นมิตรกับเด็ก   น้อย
  • ทนต่ออากาศร้อน   น้อย
  • ทนต่ออากาศหนาว   ปานกลาง
  • พื้นที่ในการเลี้ยง   ปานกลาง

     ลักษณะทั่วไป
           
    ชาเป่ยเป็นสุนัขขนาดกลาง รูปร่างคล้ายกับฮิปโปโปเตมัส ขนสั้น ลักษณะภายนอกที่เห็นแล้วระบุได้ชัดเจนว่า เจ้าคือชาเป่ยก็คือหนังยับๆย่นๆ ปกคลุมบริเวณส่วนศีรษะและลำคอ แต่รอบย่นพวกนี้จะหายไปเมื่อมีอายุมากขึ้น
     
     ความเป็นมา
          
    สุนัขพันธุ์ชาเป่ยชาร์ไป่ เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน เป็นสายพันธุ์พื้นเมืองที่เกิดจากหมู่บ้านเล็กๆ เมืองไต้ลี่ มณฑลกวางตุ้ง และมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ในตอนใต้ของประเทศจีน สมัยราชวงศ์ฮั่น
    และชื่อ ชาเป่ย หมายความว่า ผิวของดิน แต่ก็มีการตีความผิดไปว่า ผิวของกระดาษทราย หรือผิวหนังที่หยาบกร้านคล้ายกระดาษทราย จากการตีความหมายนี้ได้กลายเป็นคุณสมบัติเฉพาะของสุนัขพันธุ์ชาเป่ย ที่มีผิวหนังคล้ายสีของพื้นดิน น้ำตาลบ้าง ดำ-น้ำตาลบ้าง แต่ทุกสีจะมีลักษณะเดียวกันคือ ขนสั้น
         ทั้งนี้ มีการสันนิษฐานว่า ชาเป่ย น่าจะเกี่ยวโยงกับเชา เชา เพราะมีลักษณะร่วมกัน คือมีลิ้นสีน้ำเงินเข้ม หรือม่วง เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุด และถึงกับเคยถูกบันทึกให้เป็นสุนัขที่หายากที่สุดมาแล้ว แต่ปัจจุบันได้มีการเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย แต่เดิม ชาเป่ย ไม่ได้หน้าตาแบบที่เราๆ เห็นกัน เพราะกว่าเราจะได้เห็นหมาย่นเหมือนผ้าห่มไปทั้งตัวอย่างนี้ ก็ผ่านการพัฒนาสายพันธุ์มาเป็นะระยะ โดย ชาเป่ย เริ่มจากการเป็นหมาชาวบ้านชาวเมืองทั่วไป เฝ้าบ้าน เฝ้าไร่นาเรือกสวน ชาเป่ย ถูกพัฒนาในด้านความฉลาด และพละกำลัง หลังจากนั้น ชาเป่ยก็ถูกจับไปใช้ในการแข่งขัน คือเอามาต่อสู้กัน ตอนนี้เองที่เอกลักษณ์โดดเด่นของชาเป่ย ได้ถูกพัฒนาขึ้นมา นั่นก็ความยับย่นทั่วตัว ซึ่งว่ากันว่าเกิดขึ้นเพื่อช่วยไม่ให้ถูกคู่ต่อสู้งับไว้ได้ง่ายๆ 
     ลักษณะนิสัย
         ชาเป่ยเป็นสุนัขที่ฉลาดและค่อนข้างมีมาดพอสมควร ดูสุขุม นิ่งๆ ไม่ค่อยเป็นทั้งมิตรกับคนแปลกหน้าและสุนัขตัวอื่นๆ แต่มีความซื่อสัตย์กับเจ้าของสุดๆ และที่สำคัญชาเป่ยมีความสามารถในการเฝ้าบ้านเป็นอย่างมาก เชื่อฟังคำสั่งและชอบประจบเจ้าของ ไม่ชอบใช้ความรุนแรงหรือคอยหาเรื่องกับสุนัขตัวอื่น แต่จะสู้ไม่ถอยเมื่อโดนรังแก
     
     การดูแล
          ในเรื่องของการให้อาหารนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ผสมสีสังเคราะห์ (ไม่ใช่สีผสมอาหาร) วัตถุกันเสียและเนื้อแดง หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวโพดและถั่วเหลือง เพราะอาจทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ ส่วนในเรื่องของความสะอาดนั้น สุนัขชาเป่ยเป็นสุนัขที่ต้องการความสะอาดเป็นอย่างมาก เพราะชาเป่ยมีเหงื่อเยอะต้องหมั่นอาบน้ำให้สะอาดอยู่เสมอๆ และต้องคอยดูแลเรื่องการสะสมของสิ่งสกปรกในหูที่จะทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกการที่จะเลี้ยงสุนัขชาเป่ยให้มีสุขภาพดีได้นั้น ผู้เลี้ยงจะต้องพาไปฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ดูแลเรื่องเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอค่ะ

    ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
       
     สุนัขชาเป่ยเหมาะสำหรับผู้เลี้ยงที่ต้องการสุนัขที่ซื่อสัตย์กับเจ้านายเพียงคนเดียว ทั้งนี้ผู้เลี้ยงจะต้องเข้าใจอุปนิสัยของสุนัข ต้องมีเวลาในการดูแลเรื่องของความสะอาด และต้องเข้าใจถึงการแสดงออกของสุนัขด้วย
     
     ข้อควรจำ
         
    ชาเป่ยเป็นสุนัขที่มีน้ำลายเยอะมาก ดังนั้นต้องทำใจไว้ก่อนว่าจะเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านจะต้องเต็มไปด้วยน้ำลายของชาเป่ย

     มาตรฐานสายพันธุ์

ขนาด
สูงประมาณ 18-20 นิ้ว หนัก 22.5 - 30 กิโลกรัม
ศรีษะ
หัวค่อนข้างโต แต่ไม่มากเกินไป บริเวณหน้าผากมีรอยย่นชัดเจน
ฟัน
มีความแข็งแรง ขบแบบกรรไกร
ปาก
ริมฝีปากดำ หรือน้ำตาลเข้ม ปากบนย่นห้อยลงมาปิดปากล่าง
ตา
ดวงตาคล้ายเมล็ดอัลมอลต์ แววตาดูเศร้าหม่นๆ สีนัยน์ตาจางๆ
หู
หูมีลักษณะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมและพับลง
จมูก
จมูกสีดำ หรือ สีอิฐ (สีชมพูผสมสีดำ)
คอ
ลำคอมีความยาวพอดีสมส่วนกับลำตัว มีรอยยับย่นรอบลำคอ
อก
กว้าง ลึก 
ลำตัว
ลำตัวเป็นทรงสีเหลี่ยม ผิวหนังย่น มีส่วนสูงน้อยหว่าความยาวของลำตัวเล็กน้อย
เอว
-
ขาหน้า
ขาหน้าหนา ตรงแข็งแรง มั่งคง 
ขาหลัง
ขาหลังส่วนต้นขาถึงขาท่อนล่างจะยาวกว่าจากขาท่อนล่างถึงข้อเท้า ขาท่อนล่างทั้ง 2 ข้างขนานกัน
หาง
หางตั้งสูง
ขน
ขนดกและสั้นมาก
สีขน
มีเกือบทุกสี